สำหรับท่านที่เข้ามาเทรด Forex กับโบรกเกอร์ XM ใหม่ๆนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ยินจนชินหูแล้วเกี่ยวกับคำศัพท์ Stop Loss และ Take Profit ที่มีการพูดถึงเยอะมาก รวมทั้งคำศัพท์ Trailing Stop ก็คงผ่านหูท่านมาบ้างเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าท่านจะได้ยินคำศัพท์เหล่านี้บ่อยครั้งมากแค่ไหน แต่การที่ท่านเข้ามาเทรดค่าเงินใหม่ๆนั้น ท่านย่อมไม่เข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้จริงๆ เราจึงอยากแนะนำว่าทางที่ดีท่านควรจะศึกษาคำศัพท์เหล่านี้ควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะช่วยให้ท่านได้เข้าใจเมื่อท่านเข้าร่วมงานสัมมนาหรือเข้าคลาสเรียนการเก็งกำไรค่าเงินจากที่ต่างๆ ท่านคงจะได้ยินคำศัพท์เหล่านี้กันอยู่แล้ว แต่หากท่านไม่ยอมเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้แล้วไปเข้าคลาสเรียน ท่านอาจจะสับสนและไม่เข้าใจบทเรียนก็ได้ จึงทำให้ท่านเสียเปรียบเพราะไม่เข้าใจการสื่อสารของผู้สอนเมื่อไปเข้าคลาสเรียนต่างๆ แม้แต่เรียนรู้แนวทางการเทรดจากอินเทอร์เน็ต ก็ไม่สามารถช่วยให้ท่านเข้าใจหลักการอย่างถี่ถ้วน บทความนี้เราจึงอยากแนะนำให้มือใหม่เข้าใจคำศัพท์หลักๆที่ใช้ในการเทรดค่าเงินเสียก่อน ท่านจะได้ไปเรียนรู้ต่อได้อย่างมั่นใจและเข้าใจผู้สอนมากยิ่งขึ้น
Stop Loss หรือ SL คืออะไร
สำหรับคำศัพท์แรกที่เราอยากแนะนำให้ท่านรู้จักก็คือ Stop Loss หรือที่ท่านได้ยินว่า SL นั่นเอง เป็นคำศัพท์ที่มีความหมายว่าจุดตัดขาดทุน เมื่อเราเปิดคำสั่งซื้อขายเรียบร้อยแล้ว เราสามารถตั้งจุดตัดขาดทุนอีกจุดหนึ่ง หากเราซื้อ เราสามารถตั้งจุดตัดขาดทุนต่ำกว่าราคา เพื่อที่เราจะได้ตัดขาดทุนออกไปก่อนเมื่อกราฟร่วงลงมามากเกินไป เราจะได้ไม่เสี่ยงเสียเงินก้อนใหญ่ของเราไป หากเราเปิดคำสั่งขาย เราสามารถตั้งจุดตัดขาดทุนที่สูงกว่าราคาที่เราขาย นั่นหมายความว่าหากเราเปิดออร์เดอร์ขายแล้ว หากกราฟยังวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกินที่เราจะรับไหว จะช่วยให้พอร์ตของเราปลอดภัย เพราะเราได้ตัดขาดทุนออกไปก่อน จึงช่วยให้เราเทรดได้อย่างปลอดภัย คนที่เป็นมือใหม่ในการเข้ามาเทรดทำกำไรจากค่าเงินนั้น ทุกออร์เดอร์ที่ท่านเปิด จำเป็นที่จะต้องมีจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ท่านโดนล้างพอร์ตจนหมดตัว และการวางจุดตัดขาดทุนหรือ Stop Loss ที่ดี ยังช่วยให้ท่านควบคุมความเสี่ยงได้ว่าในแต่ละไม้นั้น ท่านสามารถยอมรับการขาดทุนได้สูงสุดเท่าไหร่ ช่วยให้ท่านเทรดค่าเงินได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
Take Profit หรือ TP คืออะไร
จุด Take Profit หรือเรียกอีกอย่างว่า TP ก็คือจุดที่เราต้องการทำกำไร โดยเป็นจุดที่เราจะตั้งเอาไว้ว่าเมื่อกราฟไปถึงราคาที่เราต้องการ จะต้องปิดออร์เดอร์ทันทีเพื่อให้เราได้เก็บกำไร หากเช่นเราซื้อค่าเงินคู่หนึ่ง เมื่อกราฟวิ่งขึ้นจนถึงจุดที่เราตั้งเอาไว้ ระบบจะทำการปิดออร์เดอร์อัตโนมัติเพื่อที่จะเก็บกำไรเข้าพอร์ตให้เราเลย ช่วยให้เราตั้งเอาไว้ได้ว่าเมื่อเราไม่ได้เฝ้าหน้าจอ เราจะให้กราฟวิ่งไปถึงจุดไหนแล้วจะเก็บกำไร จึงช่วยให้เราสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยมั่นใจได้จริงๆ เพราะบางทีกราฟที่วิ่งขึ้น อาจจะลงกลับมาก็ได้ แต่หากเราเก็บกำไรได้ก่อน เราจึงไม่ต้องกังวลแล้วถ้ากราฟจะวิ่งลงกลับมา หากท่านไม่มีการตั้งจุดสำหรับเก็บกำไรเอาไว้ หากกราฟวิ่งไปสูงแล้ว ลงกลับมา ก็จะทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆที่จะทำกำไรตรงนั้นไป
Trailing Stop คืออะไร
Trailing Stop เป็นการตั้ง SL ตามจุดที่เราต้องการเมื่อกราฟวิ่งไปเรื่อยๆ อาทิเช่น หากเราซื้อคู่เงินหนึ่ง เรากำหนดให้มีการ Trailing Stop ทุก 200 จุด แสดงว่าเมื่อกราฟวิ่งขึ้นทุก 200 จุด โปรแกรมจะเลื่อนจุดตัดขาดทุนให้เราอัตโนมัติ 200 จุดทุกครั้ง ช่วยให้เราได้ลุ้นกับโอกาสทำกำไรให้ได้เงินก้อนโตจากการเทรด เพราะบางทีกราฟวิ่งขึ้นวิ่งลงรุนแรงมากๆ หากเราตั้งแต่จุด Take Profit เอาไว้ เรามีโอกาสได้ปิดออร์เดอร์เก็บกำไรตามที่เรากำหนด แต่บางทีกราฟวิ่งไปไกลและเร็วมาก เราอาจลุ้นที่จะได้ทำกำไรมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว Trailing Stop จึงมีประโยชน์ในการหาจุด SL ที่จะช่วยให้เราได้กำไรมากที่สุดและช่วยป้องกันการขาดทุนได้ดีเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าคำศัพท์ในการเทรดค่าเงินเหล่านี้มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะการวาง Stop Loss ที่จะช่วยให้เราตัดขาดทุนได้รวดเร็วทันเวลา การวางจุด Take Profit ที่จะช่วยให้เราเก็บทำกำไรได้ก่อนที่กราฟจะวิ่งสวนทาง รวมไปถึง Trailing Stop ที่จะช่วยให้เราสามารถติดตามทำกำไรได้สูงมากๆเมื่อกราฟวิ่งรุนแรงไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งโดยไม่ย้อนกลับมา การรู้คำศัพท์เหล่านี้และนำไปใช้ได้อย่างถูกวิธี จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการเทรดทำเงินและหากลยุทธ์ในการเทรดมาช่วยให้เราเทรดได้กำไรได้อย่างมั่นคงในระยะยาว ทั้งยังช่วยให้เราสามารถเข้าเรียนคอร์สสอนเทรดกับอาจารย์เก่งๆและเข้าใจคนสอนได้จริง รวมถึงช่วยให้เราพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่เทรดเก็งกำไรด้วยกันได้อย่างเข้าใจ ดังนั้นการรู้คำศัพท์เหล่านี้เราจะสามารถพัฒนาตัวเราเองไปได้เร็ว ช่วยให้เราทำเงินได้อย่างมากมายในระยะยาว แต่หากเราไม่รู้คำศัพท์เหล่านี้เลย เราจะไปต่อได้ยากมาก ไม่สามารถหาความรู้มาพัฒนาตัวเองได้ง่ายๆ เพราะว่าคนที่แบ่งปันความรู้ก็ย่อมมีการพูดถึงคำศัพท์เหล่านี้อยู่เสมอ