คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับคลื่น Elliott หรืออาจจะเคยเห็นการนับคลื่น นั่นเป็นเพราะในปัจจุบันการวิเคราะห์คลื่นเอลเลียตเป็นหนึ่งในวิธีการที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในการคาดการณ์ตลาด Forex ทำไมนะเหรอ? หลักการ Elliott Wave เป็นเครื่องมือเดียวในประสบการณ์ของเราที่สามารถจัดเรียงการเคลื่อนไหวของราคาในทุกๆกรอบเวลาตั้งแต่แผนภูมิรายเดือนหรือแม้แต่รายปีไปจนถึงกรอบเวลาหนึ่งนาที ตัวอย่างเช่นคุณสามารถซื้อขายได้ในแผนภูมิระหว่างวัน แต่ในเวลาเดียวกันคุณยังมีภาพที่ใหญ่กว่า เพียงแค่ใส่คลื่นเอลเลียตที่เป็นดีเอ็นเอของตลาดลงไป ในบทความต่อไปนี้เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับหลักการ Elliott Wave ไปดูกันเถอะ.
ใครเป็นผู้เขียน?
เราควรจะกล่าวขอบคุณ Ralph เนลสันเอลเลียต (1871 – 1948) ซึ่งเป็นนักบัญชีและนักเศรษฐศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1983 เขาได้ตีพิมพ์หนังสือ ‘The Wave Principle’ และหนังสือเล่มที่สอง ‘Nature’s Law – The Secret of the Universe’ ถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1946 เอลเลียตอธิบายรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในตลาดตามกฎที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน
เราต้องขอบคุณ Robert R. Prechter Jr. และ A.J. Frost สำหรับหนังสือ ‘Elliott Wave Principle: Key to Market Behavior’ ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งข้อมูลหลักของกฎและแนวทางทั้งหลาย นอกจากนี้ในปี ค.ศ. 2006 ยังมีหนังสือดีๆอีกเล่มหนึ่งคือ “Elliott’s Code” โดย D.V. Vozny น่าเสียดายสำหรับผู้อ่านหลายๆคนทั่วโลกที่หนังสือเล่มนี้ยังเป็นภาษารัสเซีย
เริ่มต้นการเดินทาง
ชุดของบทความนี้มีพื้นฐานมากับหนังสือสองเล่ม กฎหรือแนวทางใดๆในบทความใดๆ ที่เหมือนกฎต่างๆในบทความนี้ จงมั่นใจได้เลยว่าผมจะไม่ได้เพียงกล่าวให้คุณฟังซ้ำอีกครั้ง แต่สิ่งที่ผมต้องการจะทำคือสอนคุณเกี่ยวกับหลักการของ Elliott Wave และแบ่งปันประสบการณ์ของผมตัวอย่างส่วนใหญ่จะมาจากตลาดจริง และนอกจากนี้เราจะมาดูหลายๆเรื่องที่ไม่ได้อธิบายไว้ในหนังสือเล่มนี้ แต่คุณสามารถหาได้ในแผนภูมิ
LEGO ของตลาด
ในหลักการ Elliott Wave จะมีอยู่สองประเด็นหลักๆ: แรงกระตุ้น (การเคลื่อนไหวของราคา 5 คลื่น) และการแก้ไข (การเคลื่อนไหวของราคา 3 คลื่น) เดี่ยวจะเราจะพูดถึงสิ่งเหล่านี้ในบทความถัดไป เพื่อคุณจะได้เห็นว่ามีเพียงบล็อก LEGO หลักเพียงบล็อกเดียวที่เป็นแรงกระตุ้น แต่ตอนนี้เรามาโฟกัสที่สองสิ่งนี้ก่อน
ลองดูแผนภูมิด้านล่าง คุณจะเห็น 5 คลื่นลดลง – นั่นคือคลื่นกระตุ้น (มีบางกรณีที่เราอาจมี 5 คลื่นแก้ไข แต่เดี๋ยวจะอธิบายในภายหลัง) นอกจากนี้ยังมี 3 คลื่นล่วงหน้าซึ่งเราอาจมองเป็นการแก้ไขได้ ดีล่ะ เราพบแรงกระตุ้นและการแก้ไขแล้ว เช่นนั้นก็ได้เวลาที่จะเห็นภาพขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิดหน่อย

แผนภูมิถัดไปเป็นเพียงการนับจำนวนคลื่นจริงที่ผมเคยโพสต์ในการวิเคราะห์ของผม การลดลงน่าจะเกิดขึ้นในคลื่นลูกที่สามของแรงกระตุ้นในขาลง ในขณะที่การตีกลับขึ้นจะเป็นคลื่นที่สี่ของมัน
เช่นนั้นเราอาจสรุปได้ว่า: ไม่มีคลื่นที่สามารถอยู่ห่างจากคลื่นลูกอื่นๆได้ หลักการ Elliot Wave เป็นเหมือนตุ๊กตาแม่ลูกดกของรัสเซีย (Matryoshka) แต่ละคลื่นจะเป็นส่วนหนึ่งของอีกคลื่น และแต่ละคลื่นยังประกอบไปด้วยคลื่นขนาดเล็กจำนวนมาก เรื่องนี้จะเกิดจากกรอบเวลาที่สูงไปสู่กรอบเวลาที่เล็กลง..
สิ่งนี้ทำให้หลักการ Elliott Wave แตกต่างจากเทคนิคอื่นๆของการวิเคราะห์ตลาด วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่มุ่งเน้นรูปแบบและสัญญาณซึ่งมีความต่อเนื่องกัน แต่พลังของ EWP คือความสามารถในการมองเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้นไม่ใช่แค่แผนส่วนบุคคล
คุณอาจเคยได้ยินว่าถ้าใช้ EWP ในการซื้อขายคุณก็จะพบจำนวนคลื่นมากกว่าหนึ่ง ปกติแล้วคุณมีสองสามสถานการณ์ที่เป็นไปได้ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน สิ่งนี้เองที่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวกับ EWP เพราะมันคล้ายกับการเล่นหมากรุก
หากอินดิเคเตอร์แสนวิเศษบอกให้คุณซื้อหรือขาย คุณอาจไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรหากมันพลาด แต่ด้วย EWP คุณจะพยายามคิดหาวิธีการเทรดโดยอาศัยว่าตอนนี้ถึงคลื่นลูกที่เท่าไหร่ นี่นับเป็นทักษะสำคัญของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
มาดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกัน ตัวอย่างแรกคือดัชนี DJI ในเดือนกันยายน 2016 ค่าดัชนีได้พุ่งสูงจรถึงจุดสูงสุดเดิม และผมได้เคยโพสท์แจ้งถึงคลื่นขาขึ้น ผมคาดว่าตลาดน่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากคลื่นลูกที่ 5 ยังอยู่ห่างออกไปอีกมาก
ไม่กี่เดือนต่อมา ตลาดยิ่งปรับตัวสูงขึ้นไปอีก แต่ผมก็ยังยืนยันถึงกระทิง การคาดการณ์นี้มีพื้นฐานมาจาก EWP ที่เรากำลังจะได้เรียนรู้กันอีกไม่นาน แต่ตอนนี้คุณมาดูก่อนว่ามันดียังไง
เช่นนั้น เทรนด์ยังคงเป็นขาขึ้น และคุณสามารถเห็นคลื่นลูกปัจจุบันอยู่ด้านล่าง
เรื่องที่สองคือ USD/TRY ในเดือนตุลาคม ปี 2016 คลืนลูกที่ 4 ดูเหมือนจะเสร็จแล้วเป็นรูปสามเหลี่ยม ดังนั้นผมเลยคาดการณ์ว่าจะมีการดีดกลับในขาขึ้น ซึ่งมันก็ค่อยๆเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนถัดมาแล้วก็เมีเรื่องของการพักตัวขาลง แต่แล้วมันก็สิ้นสุดลง แล้วเทรนด์ขาขึ้นก็ดำเนินต่อไปตามคาด
ส่วนสำคัญที่สุด
ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีอยู่เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงการเทรดแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งที่คุณกำลังทำในตอนที่ตลาดเคลื่อนไหวไปตามเทรนด์ตามจำนวนคลืนที่คุณนับ เช่นนั้นเราสามรถใช้ EWP เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการช่วยหาโอกาสเข้าทำกำไร
นอกจากนั้นมีมีความจำเป็นใดๆที่คุณต้องเข้าเทรดตามคืล่นที่คุณแปะป้ายไว้หรือเพิ่งเห็นบนเว็บ คุณควรเทรดเฉพาะบนคลื่นที่ที่ดีที่สุดที่คุณมีโอาสในการเปิดออเดอร์ คุณควรรอราคาที่ดีดุจนายพรานในป่าใหญ่ ซึ่งเมื่อคุณเห็นโอกาสแล้วคุณควรทำให้ให้ดีที่สุดเพื่อความสำเร้จ
นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น ในบทความถัดไป เราจะพูดถึงกฏและแนวทางของ EWP